บาคาร่าออนไลน์ นักเดิมพันหลายๆ ท่านที่เคยเดิมพันบาคาร่าออนไลน์คงจะเคยเจอคำว่า “การเดิมพันบาคาร่ามาตรฐาน” กับ “การเดิมพันบาคาร่าแบบไม่มีค่าคอม” ซึ่งถ้าพูดกันตามตรงการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ทั้งสองแบบนั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ทั้งเรื่องรูปแบบการเดิมพัน วิธีการลงเดิมพัน เวลาในการเดิมพัน กติกาในการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้การเดิมพันบาคาร่ามาตรฐานกับบาคาร่าไม่มีค่าคอมแตกต่างกันนั่นก็คือตามชื่อเลย เนื่องจากบาคาร่ามาตรฐานหรือบาคาร่ามีค่าคอมหรือชื่อเต็มๆ คือ “ค่าคอมมิชชั่น” นั้น จะมีการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการลงเดิมพันของนักเดิมพัน ส่วนบาคาร่าไม่มีค่าคอมนั้นจะไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการลงเดิมพันของนักเดิมพันครับ แล้วแบบนี้นักเดิมพันจะเลือกเดิมพันบาคาร่าไม่มีค่าคอมไม่ดีกว่าหรอ อย่าเพิ่งตัดสินใจไปเพราะยังมีรายละเอียดของปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจอีกมากมาย โดยเว็บ 123DD รับเดิมพันเริ่มต้นเดิมพันขั้นต่ำที่ 20 บาท และมีข้อดีคือเว็บเรา ฝาก-ถอน ไม่มีขั้นต่ำ อีกทั้งยังทำรายการฝาก – ถอน ใน 20 วินาที ทำให้นักเดิมพันหมดกังวลในเรื่องการฝาก ถอน โอน เมื่อมาเดิมพันกับเว็บ 123DD
7 กติกาในการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ที่นักเดิมพันควรทราบ
กติกาที่ 1 : การนับแต้มบาคาร่าออนไลน์
สำหรับกติกาในการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์ที่นักเดิมพันควรรู้อย่างแรกก็คือ กติกาการนับแต้ม ซึ่งการนับแต้มของบาคาร่านั้นนักเดิมพันจะต้องทำแต้มไพ่ในมือของตัวเองให้ใกล้กับ 9 แต้มมากที่สุดถึงจะเป็นฝ่ายชนะ โดยจะสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ท่านละ 1 ใบเท่านั้น สำหรับการนับแต้มไพ่จะมีวิธีการนับ ดังนี้
- A = 1 แต้ม
- 2,3,4,5,6,7,8,9 = นับตามหน้าไพ่
- 10,J,Q,K = 10 แต้ม
กติกาที่ 2 : การเดิมพันบาคาร่าออนไลน์เบื้องต้น
โดยจะมีไพ่ให้นักเดิมพันเลือกวางเดิมพัน 2 ฝั่ง คือ
- ฝั่งแดง เรียกว่า แบงค์เกอร์(Banker) ซึ่งก็คือฝั่งของเจ้ามือ
- ฝั่งน้ำเงิน เรียกว่า เพลย์เยอร์(Player) เป็นฝั่งของนักเดิมพัน
นักเดิมพันหลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมต้องมีฝั่งเจ้ามือและฝั่งเดิมพัน เพราะเมื่อนักเดิมพันเลือกเดิมพันได้ทั้งสองฝั่ง ซึ่งความจำเป็นที่ต้องมีสองทั้งฝั่งเจ้ามือและฝั่งนักเดิมพันนั้น เพราะหากนักเดิมพันเลือกวางเดิมพันที่ฝั่งเจ้ามือ นักเดิมพันจะต้องเสียค่าน้ำให้กับเจ้ามือ อาทิเช่น วางเดิมพัน 20 บาท ถ้าไพ่ออกมาชนะนักเดิมพันก็จะต้องเสีย 0.7 บาท ให้กับเจ้ามือ และนักเดิมพันได้กลับมาเพียง 19.3 บาท แต่ถ้านักเดิมพันเลือกเดิมพันฝั่งนักเดิมพันก็คือ นักเดิมพันจะได้รับเงินเต็มจำนวนเดิมพัน ไม่มีการหักค่าน้ำใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้นักเดิมพันหลายๆ ท่านชอบที่จะเดิมพันฝั่งของนักเดิมพันมากกว่า เพราะไม่ต้องเสียอะไรเลยให้กับเจ้ามือรับเต็มๆ นั่นเอง
โดยโต๊ะบาคาร่าหรือโต๊ะคาสิโน จะมีผู้จ่ายไพ่ 1 คน ซึ่งเรียกว่าดีลเลอร์(Dealer) ที่ประจำโต๊ะรับเดิมพัน คอยหยิบไพ่ออกจากสำหรับเพื่อนำไพ่ออกมาวาง และให้นักเดิมพันได้ลงเดิมพันกัน ซึ่งฝั่งของนักเดิมพันก็จะเลือกวางเดิมพันลงไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่คิดว่าผลจะออก และคิดว่าจะชนะ โดยจะมีเวลานับถอยหลังให้ประมาณ 30-40 วินาที เพื่อให้นักเดิมพันมีเวลาในการตัดสินใจวางเดิมพัน ซึ่งยอดของการเดิมพันก็แล้วแต่ว่านักเดิมพันต้องการที่จะลงเดิมพันที่เท่าใด ส่วนมากแล้วโต๊ะจะมีกำหนดให้อยู่แล้ว อาทิเช่น เดิมพันได้ขั้นต่ำสุดที่ 20 บาท ไปจนถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว
กติกาที่ 3 : การนับแต้ม แพ้ – ชนะ ในการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์
กติกาบาคาร่าการนับแต้มแพ้-ชนะ นั้นนับได้ง่ายมาก คือนับจากตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าไพ่แล้วนำมารวมกัน หากแต้มเกินหลัก 10 แต้มขึ้นไป ก็นับตัวเลขที่อยู่ข้างหลังเป็นหลัก อาทิเช่น เปิดไพ่ออกมาได้ไพ่เลข 10 แต้มและไพ่ 9 แต้มบวกกันแล้วได้เท่ากับ 19 แต้ม นั่นก็คือนักเดิมพันได้ 9 แต้ม ซึ่งถือเป็นไพ่ที่แต้มที่สูงที่สุด
ส่วนไพ่ที่ไม่มีตัวเลข อาทิเช่น ไพ่ฝรั่งต่างๆ จะมีแต้มเท่ากับ 0 นั่นคือ ไม่นับว่าเป็นแต้ม ถ้าหากนักเดิมพันท่านใดที่เดิมพันไพ่เป็นอาจจะเคยเดิมพันไพ่อื่นๆ ที่มีการนับ อาทิเช่น ไพ่ตอง ไพ่เรียง ไพ่สี เป็นต้น แต่สำหรับกติกาบาคาร่านั้นจะไม่นับเงื่อนไขดังกล่าว แต่จะนับแต้มรวมให้ได้มากที่สุดคือ 9 แต้มเท่านั้น
กติกาที่ 4 : ระยะเวลาในการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์
ระยะเวลาในการเดิมพันนั้นไม่มีเวลาตายตัว เนื่องจากการเดิมพันเกมนี้จะใช้ไพ่ทั้งหมดหลายสำหรับ และใช้เวลาในการเดิมพันค่อนข้างนาน ซึ่งขึ้นอยู่ด้วยว่า ในระหว่างที่เดิมพันนั้นมีปัญหาระหว่างการเดิมพันเกิดขึ้นหรือไม่ โดยเวลาเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมงนั่นเอง
กติกาที่ 5 : สัดส่วนการจ่ายเงินหากมีการชนะเดิมพันบาคาร่าออนไลน์
- เดิมพันฝั่งนักเดิมพัน (Player) : หากชนะจ่าย 1 : 1
- เดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Babker) : หากชนะจ่าย 0.95 : 1
- เดิมพันไพ่คู่ : หากชนะจ่าย 11 : 1
- เดิมพันไพ่เสมอ : หากชนะจ่าย 8 : 1
- เดิมพันไพ่ป๊อก : หากชนะจ่าย 7 : 2
กติกาที่ 6 : การจั่วไพ่ในการเดิมพันบาคาร่าออนไลน์
สำหรับกติกาการจั่วไพ่ของผู้เล่นฝั่ง Player และ Banker ก็จะมีกติกาที่ไม่เหมือนกัน โดยจะมีกติกาดังนี้
กติกาของผู้เล่นฝั่ง Banker
- ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 3 และแต้มของฝั่งเจ้ามือ เป็น 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 0 ให้จั่วไพ่เพิ่ม
- ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 4 และแต้มของฝั่งเจ้ามือ เป็น 2, 3, 4, 5, 6, 7 ให้จั่วไพ่เพิ่ม
- ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 5 และแต้มของฝั่งเจ้ามือ เป็น 4, 5, 6, 7 ให้จั่วไพ่เพิ่ม
- ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 6 และแต้มของฝั่งเจ้ามือ เป็น 6, 7 ให้จั่วไพ่เพิ่ม
- ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 7 ให้อยู่ (ไม่ต้องจั่วเพิ่ม)
- ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกเท่ากับ 8 และ 9 เรียกว่าป๊อก
กติกาที่ 7 : การเดิมพันบาคาร่าออนไลน์แบบไม่มีค่าคอม
จุดแตกต่างสำคัญระหว่างบาคาร่ามาตรฐานกับบาคาร่าไม่มีค่าคอมมิชชั่น มี 2 ประการ คือ 1. กรณีเจ้ามือชนะที่ 6 แต้ม และ 2. โบนัสซุปเปอร์หก (Super 6)
- กรณีที่เดิมพันฝั่งเจ้ามือแล้วชนะที่ 6 แต้ม บาคาร่าไม่มีค่าคอมมิชชั่นจะจ่ายให้นักเดิมพันผู้ชนะแค่ครึ่งเดียว ที่อัตราต่อรอง 1:0.5 (0.5 เท่า) แต่ถ้าแต้มชนะเป็นอื่นนอกจาก 6 แต้ม คาสิโนจะจ่ายเต็มจำนวนตามปกติ
- บาคาร่าไม่มีคอมจะมีตาเดิมพันโบนัสพิเศษ ชื่อว่า “ซุปเปอร์หก” หรือ “Super 6” ที่นักเดิมพันตานี้จะได้รางวัลประมาณ 12-15 เท่า (แล้วแต่เว็บบาคาร่า) หากเจ้ามือชนะที่ 6 แต้ม
นอกจาก 2 โบนัสอื่นๆ (Side Bets) ของบาคาร่าไม่มีค่าคอมมิชชั่นจะไม่แตกต่างจากบาคาร่ามาตรฐานมากนัก ไม่ว่าจะเป็นโบนัสออกคู่ (Pair) คู่เป๊ะ (Perfect Pair) โบนัสไพ่ป๊อก (Natural) สูง/ต่ำ (Big/Small) อีกทั้งหากนักเดิมพันเลือกเดิมพันบาคาร่าเซ็กซี่ก็จะมีโบนัสพิเศษที่แจกรางวัลทวีคูณ หากนักเดิมพันชนะแบบไม่ป๊อกอีกด้วย
สมัครเป็นสมาชิกเพียงขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- เข้าไป สมัคร ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา
- จากนั้นให้ท่านกดที่คำว่า สมัครสมาชิก ได้เลยทันที
- กรอกข้อมูล ตามแบบฟอร์มที่เรามีให้ อย่างครบถ้วน
- รอ call center ทำรายการไม่เกิน 1 นาที ท่านจะได้รับ user ทันที เพียงขั้นตอนง่ายๆ แค่นี้ ก็ถือว่าท่าน สมัครสมาชิก เสร็จเรียบร้อยแล้ว และไม่ว่าจะ ฝาก ถอน หรือมีปัญหาใดๆ ท่านสามารถแจ้ง call center ได้ตลอด 24 ชั่วโมง